เส้นทางในการเรียนหมอ

1.สำรวจตัวเองอยากเป็นหมอจริงไหม ???

จงตอบคำถามต่อไปนี้ ด้วยคำว่า "ใช่ " หรือ  "ไม่" อยากเป็นหมอเพราะ...

1. ตอนเด็กฝันอยากเป็น ถึงขนาดเอาดินสอจิ้มเเขนเพื่อนเเทนเข็มฉีดยา

2. พ่อเเม่เป็นหมอคนที่บ้านเป็นหมอเลยจะเรียนหมอ

3. เพื่อนสนิททั้งกลุ่มอยากเป็นหมอ

4. ทั้งตระกูลจะยงย่องสรรเสริญถ้าได้เป็นหมอ

5. ถูกด่าว่าโง่มาตลอดชีวิตวันนี้ล่ะจะเข้าคณะแพทย์ให้คนทั้งโลกอึ้ง ทึ่งไปเลย

6. ง่ายๆ...อยากรวย

เฉลย  ถ้าตอบว่าไม่ เเม้เเต่ข้อเดียวเเนะนำว่าน่าจะลองพิจารณาคณะอื่นดู บ้าง

เเละสำรวจตัวเองให้หนักว่าอยากจะเป็นหมอจริงหรือไหม

2. อยากเป็นหมอ...รับเรื่องเหล่านี้ใด้ไหม??

• คณะแพทย์...คณะเด็กเนิร์ด อ่านหนังสือทั้งวัน

• คณะแพทย์...กิจกรรมน้อยเพราะเรียนเยอะ

• คณะแพทย์...ต้องเก่งภาษาอังกฤษ

• คณะแพทย์...จะเข้าได้ต้องเก่งทุกวิชา

• คณะแพทย์...เด็กศิลป์ห้ามเข้า! 99.99%

• คณะแพทย์...กลัวเลือด กลัวผี เรียนได้

  

เเพทย์เค้าเรียนอะไรกัน??

ปี 1 - เรียนเตรียมแพทย์ วิชาสามัญทั่วไป วิทยาศาสตร์ เน้นทางด้านชีววิทยาที่จะต่อยอดไปสู่การเรียนแพทย์  ภาษาอังกฤษซึ่งมีความสำคัญมาก รวมไปถึงวิชาด้านสังคมศาสตร์อื่น ๆ ด้วย

ปี 2-3 - เรียนพรีคลินิกซึ่งก็คือความรู้เบื้องต้นของแพทย์ เช่น กายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา พยาธิวิยา เภสัชวิทยา ฯลฯ ทุกวิชาเหล่านี้นับว่าสำคัญมากสำหรับการเป็นแพทย์  การเรียนมักเป็นการท่องจำค่อนข้างมาก และต้องแม่นมากจริง ๆ ในบางเรื่อง นับว่าหนักและเหนื่อยพอสมควร

ปี 4-5 - เรียนคลินิก ซึ่งจะได้ปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วยจริง  การเรียนจะเวียนไปตามแผนกต่าง ๆ ซึ่งจะมีเวลาการเรียนที่ต่าง ๆ กัน จะหนักมากในแผนกอายุรกรรม และ ศัลยกรรม  จะเริ่มมีการอยู่เวร ต้องอดนอนพอสมควร รวมถึงยังมีการสอบทางวิชาการอยู่ ทำให้นอกจากต้องทำงานแล้วยังต้องอ่านหนังสือควบคู่ไปด้วย นับว่าหนักและโหดมาก  นักศึกษาส่วนใหญ่มักเริ่มท้อในช่วงนี้(ไม่ได้ขู่นะ..) 

ปี 6 - เวชปฏิบัติ คล้ายกับว่าเป็นหมอจริง ๆ แล้วล่ะ การเรียนคล้ายกับปี 5 แต่หนักกว่าหลายเท่าตัว(มากกก..)  บางครั้งต้องอดนอนติดต่อกันหลายวัน ทำให้ร่างกายอ่อนแอ บวกกับการได้อยู่กับเชื้อโรคทั้งวัน ทำให้ไม่สบายได้ง่ายมาก ๆ มีการไปดูงานตามโรงพยาบาลต่าง ๆ  บางโรงเรียนแพทย์จะส่งไปหาประสบการณ์ภายนอก  การเรียนในชั้นนี้มักเรียกว่า เอกซ์เทินนั่นเอง
พอจบปี 6 น้องก็จะถูกส่งตัวไปประจำตามโรงพยาบาลศูนย์ตามต่างจังหวัดในปีแรก (อินเทิน) ซึ่งจะค่อนข้างอุ่นใจเพราะยังมีแพทย์รุ่นพี่ ร่วมถึงอาจารย์แพทย์คอยดูแล  พอขึ้นปีที่ 2 คราวนี้ก็ต้องออกไปใช้ทุนตามโรงพยาลชุมชน บางโรงพยาบาลอาจมีแพทย์เพียง 2 - 3 คนเท่านั้น  น้องจะได้ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เต็มที่กันคราวนี้ล่ะ  ทั้ง 3 ปีนี้เราเรียกว่าไปใช้ทุนครับ

 

สาขาของแพทย์เฉพาะทาง

• อายุรแพทย์

 - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์

• สูตินรีแพทย์

 - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวชวิทยา

• ศัลยแพทย์

 - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์

• ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์

 - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ (ศัลยกรรมกระดูกและข้อ)

• จักษุแพทย์

 - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยา

• จิตแพทย์

 - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชศาสตร์

• แพทย์โสตศอนาสิก

 - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโสตศอนาสิกวิทยา

• พยาธิแพทย์

 - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพยาธิวิทยา

• รังสีแพทย์

 - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีวิทยา

• วิสัญญีแพทย์

 - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวิสัญญีวิทยา

• กุมารแพทย์

 - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์

• แพทย์เวชปฏิบัติครอบครัว

 - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชปฏิบัติครอบครัว

• แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู

 - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู

• แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน

 - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน

ส่งท้ายกับประสบการณ์เเบบหมอๆ

ประสบการณ์ หมอ vs ผี

เรื่อง อาจาร์ใหญ่ 

            

           

          มีนักศึกษาแพทย์คนหนึ่ง จากบ้านไปเรียนหมอที่ต่างจังหวัด ตอนนั้นเป็นช่วงปี 2 กำลังเรียนวิชามหากายภาคศาสตร์ ซึ่งต้องเรียนกับร่างอาจารญ์ใหญ่ เเละ อาจารย์ใหญ่ของกลุ่มนั้น เป็นผู้หญิงสูงอายุร่างเล็ก
          เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า ในช่วงปิดเทอมเล็กที่นักศึกษาคนนั้นกลับมาเยี่ยมบ้าน เเม่เล่าว่า เห็นผู้หญิงเเก่ๆ คนหนึ่งมาเข้าฝันหลายคืนเเล้ว ในฝันที่เห็นนั้นถามอะไรก็ไม่ตอบได้เเต่ยิ้มให้ทุกครั้งที่ฝันถึง เเล้วเเม่ก็บรรยายรูปร่างหน้าตาของหญิงเเก่คนนั้นให้ฝังนักศึกษาคนนั้นเลยเอะใจ ไปขอรูปอาจารย์ใหญ่ตอนมีชีวิตอยู่จากทางคณะ เเล้วนำกลับมาให้เเม่ดู ปรากฏแม่บอกว่า ...ใช่เลยคนนี้เลยที่ฝันถึง เล่นเอาขนลุกกันทั้งบ้าน เเต่ก็มั่นใจว่าอาจารย์ใหญ่ท่านมาดี วันต่อมาเลยไปทำบุญให้ จากนั้นอาจารย์ใหญ๋ก็ไม่เคยมาเข้าฝันอีกเลย